เล่าเรื่องผี เรื่อง ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 2

เล่าเรื่องผี เรื่องที่6 มีชื่อเรื่อง ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต.. ตอนที่ 2


  
          เรารู้ความจริงมาอย่างนึงคือวันที่เรากลับมาหาพ่อ ย่าเราก็มา ย่าเราบอกว่าพ่อเป็นนมะเร็ง คือเราเพิ่งมารู้วันนั้นว่าที่ผ่านมา
คือเขาปิดมาตลอด ไม่อยากให้พวกเราคิดมากกันแต่แบบเราก็ยังไม่เข้าใจทำไมไม่บอก ถ้าเรารู้เราคงไม่ไปเรียนไกล ส่วนใหญ่อ่านนส.เองมากกว่า แต่ก็ช่างเหอะมันทำไรไม่ได้แล้ว  
           เช้าของอีกวันคนขับรถพ่อ ผู้ใหญ่ และก็หมอคนนั้นก็มาที่ห้องพ่อเราที่รพ. หมอเข้ามาในห้องพ่อเดินไปรอบๆห้อง สักพักก็เดินมาที่เตียงพ่อ แล้วแกก็บอกว่า ของยังอยู่อยู่เลย มันหนักมาก อยู่ที่ท้องข้างซ้าย แต่เอาออกไม่ได้เพราะพ่อเพิ่งผ่าตัดมันต้องรีดท้อง หมอแกก็มองๆละบอกให้ปิดม่านแบบให้ไปบอกพยาบาลว่าขอทำพิธีอะไรงี้ ก็ไปปิด หมอแกก็เดินรอบห้อง อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีไข่ไก่ มีแก้วน้ำ แล้วแกก็เดินไปมุมๆห้องมองแต่ในแก้วน้ำ ก็ท่องๆคาถาของแก แล้วแกก็เดินมาที่ปลายเตียงพ่อ แม่เราก็ยืนมองอยู่ข้างๆหมอ สักพักหมอก็บอกให้แม่แบมือ แล้วให้ทำท่าแบบลูบๆอะ ประมาณลูบออก ตรงท้องพ่อเบาๆ สักพักหมอแกก็เอามือล้วงไปที่ตรงก้นพ่อ แม่เราก็มองอยู่ตลอดว่าหมอทำอะไรสักพักหมอแกก็หยิบอะไรบ้างอย่างเป็นมัดเล็กๆใส่มือแม่เรา 8 มัด มันคือเส้นผมที่เคลือบด้วยน้ำตาเทียน หมอก็บอกให้ตัด แม่เราก็ตัดๆ หมอแกก็ดูผ่านแก้วน้ำ

         ก็พูดว่า พอจะมีรูปที่ทำงานของพ่อบ้างมั้ย จะบอกให้ว่าใครเป็นคนทำ เค้าก็พูดแบบเดิมอะว่าเป็นคนใกล้ตัว ทะเลาะกันเรื่องเงิน เขาอิจฉา  แม่เราก็เปิดรูปในโทรศัพท์พ่อให้หมอดู เป็นรูปที่ทำงานที่ประชุมกัน หมอแกก็ดูๆๆ สักพักก็ชี้บอก คนนี้แหละดูกี่ครั้งก็เป็นคนนี้ 
แม่เราก็ถามคนขับรถ เขาก็บอกว่าว่าแล้วเชียว เพราะมันมีความเป็นไปได้ เพราะคนนั้นเขาเป็นลูกน้องพ่อ ขอแทนว่านายอ. 

         เขาเป็นคนบ้านเดียวกับพ่อเราด้วย ย่าเราก็มาเล่าให้ฟังว่า ‘มิน่าล่ะ อยู่ๆถึงมาถามถึงอาการพ่อว่าเป็นไงบ้าง’ ทั้งๆที่พ่อเราไม่ได้บอกใครเลยช่วงที่รักษาตัวที่รพ. เพิ่งมาบอกเอาตอนที่เป็นหนักมากแล้ว เพราะแกห่วงว่าจะมีใครว่าแกไม่ทำงาน ดูดิ เป็นขนาดนี้แล้วแกก็ยังคิดแต่เรื่องงาน
                  แล้วเรื่องที่ไปสืบมาที่เกี่ยวกับเรื่องเงินก็ประมาณว่าเมื่อปีที่แล้วพ่อน่าจะทำโครงการไรสักอย่างแล้วเงินที่ทำมันเหลือ นายอ.ก็เลยเหมือนจะขอเงินที่เหลือเหมือนประมาณจะเก็บไว้เอง โกงอะเรียกง่ายๆ แต่พ่อเราเป็นหัวหน้าไง เขาไม่ยอม แล้วพ่อเราก็คงไปพูดไรให้นายอ.เจ็บช้ำเลยแค้นประมาณนั้น เพราะเหมือนคนที่ทำงานก็แบบรู้กันว่าไอเนี่ยมันจะเอาตังค์ นี่คือที่เขาสันนิฐานกัน เพราะมันมีมูลอยู่ 
หลังจากที่หมอแกทำพิธีเสร็จแกก็เขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษแล้วให้แม่เรา เป็นตัวเลข เขียนว่า ‘23 กรกฎาคม 2558’ เค้าบอกเป็นวันตายพ่อเรา ซึ่งวันนั้นวันที่18 กรฏาคม อันนี้เรามารู้ตอนหลังแล้วพี่เราเล่าให้ฟัง

         หลังจากวันนั้นพ่อก็ดีขึ้น น้ำในปอดก็น้อยลง คือดีขึ้นมากกกก ทุกคนเริ่มมีความหวัง จากที่พ่อเรากินไรไม่ได้เลยนอกจากน้ำเปล่ากับน้ำเก๊กฮวย  พ่อก็บอกอยากกินนุ้นนี้ แม่เราเลยถามหมอ หมอบอกกินได้ กินเลย ให้เค้าได้กิน เหมือนอาการมันดีขึ้นแล้ว แต่ช่วงนั้นคือพ่อเราเพ้อหนักมาก
แต่ละเรื่องที่เพ้อคือมีแต่เรื่องงานทั้งนั้น แบบบอกพี่เราให้เอาโทรศัพท์ไปให้เขา ‘เอาโทรศัพท์มาให้พ่อเร็ว เผื่อมีคนโทรมาตามพ่อไปประชุม’ เรียกแม่เราไปหา จับมือแม่เรา แล้วพูดว่า ‘ขอบคุณนะที่พิมพ์งานให้’ แต่ละเรื่องคืองานทั้งนั้นเลย คิดดูดิ อ๊ากกก 

         จนวันจันทร์ที่20 กรกฎาคม พ่อเราก็กินนุ้นนี่ปกติ แม่เราก็ดีใจที่พ่อเรากินได้ พอตกบ่ายๆ พ่อหายใจถี่ขึ้น บอกแม่เราว่าเหนื่อยจังเลย แม่เราเลยไปตามหมอ ก็เลยให้ออกซิเจนพ่อ ให้พ่อได้พักผ่อน พ่อเราก็นอน เวลาเรียกหรือไรพ่อก็ตอบสนองได้ปกติ จนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนได้มั้ง พ่อเราก็นิ่งๆไป แบบนิ่งไปเลย แม่เลยตามหมอ หมอบอกว่าน้ำเต็มปอดอีกแล้ว

         อาการจากที่ดีๆตอนแรกคือไปหมดแล้ว หมอพูดหันมาถามแม่ว่า ‘คนไข้ยังห่วงอะไรอีกมั้ย’ แม่บอกยังมีลูกคนเล็กจะกลับมาอาทิตหน้า หมอบอกว่าถ้าอาทิตหน้าคงจะไม่ทัน หมอคงช่วยได้ในระยะเวลาที่จำกัด ให้ทำใจ 

         แล้ววันอังคารที่21 กรฎาคมตอนเที่ยงๆแม่เราก็โทรมาบอกให้เรากลับบ้านเลยพรุ่งนี้ ตอนนั้นเราก็คิดไว้แล้วว่าต้องมีไรแต่ก็พยายามไม่คิดมากเพราะเหมือนครั้งที่แล้วแม่ก็โทรมาแบบนี้แต่ก็ไม่มีไร เราเลยไม่ได้ถามไรไป เวลาประมาณ2ทุ่มเราก็โทรไปถามแม่ว่าเอากระเป๋าไรไปดีบลาๆ เราเลยถามไปว่าพ่อเป็นไงบ้าง แม่ก็เริ่มอึกอัก แล้วก็ร้อง บอก ‘มาดูพรุ่งนี้เลยลูก รีบๆกลับมา มาดูพ่อ เหลือพ้อยคนเดียวแล้วลูก รอแค่พ้อยแล้วลูก’ 

         เราอึ้งมาก ภาพในหนังช่อง7ฉายเข้ามาในความคิด ทุกอย่างมันตีกันไปหมด ไม่อยากจะเชื่อ ภาวนาขอให้สิ่งที่แม่พูดเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ไม่..
ยังไงความจริงก็คือความจริง แม่ร้อง เราร้อง ทุกคนในห้องร้อง เราวางสายจากแม่ไป ใช้ความคิดกับตัวเองไม่ถึงครึ่งชม.

         แม่เราโทรกลับมาตอนประมาน2ทุ่มกว่าๆ บอกให้เราพูดกับพ่อ ‘ พูดกับพ่อหน่อยนะ แต่พ่อพูดไม่ได้นะลูก’ เราก็พูดยาวเลย พูดทุกอย่างที่อยากพูด ‘บอกว่าให้รอเราก่อน ไหนบอกจะรอไง ยังไม่ได้เป็นทันตะให้เห็นเลย ยังไม่ได้เจอกันเลย พ่อบอกว่าจะเจอพ้อยก่อน พ่อบอกจะไม่เป็นอะไรไม่ใช่หรอ ‘ พูดจบแม่ก็บอกว่า ‘พน.รีบมาดูพ่อนะ เราต้องยอมรับความจริงนะลูก’ ยิ้มเป็นประโยคที่เราอยากจะเอามีดมากรีดหน้าตัวเองมากเลย

         ระหว่างนั้นเราก็คุยเฟสก็พี่เรา ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตอนแรกมันยังดีๆไม่ใช่หรอ มันไม่มีโอกาสหายแล้วหรอ บลาๆ ประมาณ3ทุ่ม15ได้ พี่เราบอกว่า ‘พ้อย พ่อเสียแล้วนะ เสียหลังจากแกพูดจบแปปนึงอะ.. ช็อกค่า โอ้ววว น้ำตาไหลพรั่กๆ เหมือนจะบ้าอะตอนนั้น หายใจไม่ออก ไม่อยากจะเชื่อ แต่ต้องเชื่อ.. เรากลับไปถึงบ้านวันพุธที่22กรกฎาคมคือวันนั้นก็ยังทำอะไรกับศพพ่อไม่ได้เพราะเป็นวันพุธก็ต้องรอพรุ่งนี้วันพฤที่ 23 กรกฎาคม ถึงจะเคลื่อนศพได้ พ่อเคยพูดไว้ว่าถ้าแกเป็นไรไปให้เอาแกกลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด  

              แม่เราก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนก่อนพ่อจะเสียแม่ให้ยายเอาดวงพ่อเราไปดูอีกรอบนึง ปรากฏว่าหมอคนนั้นบอกดูไม่ได้ เพราะพ่อเกิดวันพุธ แม่เลยเอาดวงแม่ไปให้ดูแทน หมอแกก็บอกมาว่ามีวิธีคือให้แม่ไปสวดบทสวด[จำชื่อไม่ได้]ที่ต้นไม้ใหญ่ 1 คือพ่อจะรอด 2คือพ่อจะไปเร็วกว่าเดิม ให้วัดดวงเอา แม่เราก็เลยเสี่ยง ก็ทำตามที่หมอบอก แม่บอกนั่นแหละหลังจากวางจากพ้อยแล้วแม่ก็ลงไปทำ พอขึ้นมา สักแปปเดียว แปปเดียวจริงๆ พ่อก็ไปเลย มันเร็วมากเร็วจนน่าตกใจ บวกกับคนขับรถพ่อเราก็ขับรถไปตามหาหมอคนนั้นที่เคยมาแก้ให้พ่อเรา ไปหาถึงบ้าน เจอแต่แม่ของหมอ เขาบอกว่าหมอคนนั้นไม่อยู่ ไปมาเลย์ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คือแบบ เราคิดว่ามันคงถึงคราวแล้ว มันคงลิขิตมาแล้วให้เป็นแบบนี้จริงๆ 

เล่าเรื่องผี เรื่อง ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 2 เล่าเรื่องผี เรื่อง ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 2 Reviewed by theghoststry on มีนาคม 15, 2561 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น

Business

[recent]