เล่าเรื่องผี ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 3

            เล่าเรื่องผี เรื่องที่6 มีชื่อเรื่อง ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต.. ตอนที่ 2 วันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม 2558 ครอบครัวเราไปรับศพพ่อที่รพ. เพื่อเคลื่อนย้ายไปตจว. พอไปถึง ก็เข้าไปที่ห้องดับจิต



            เราจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเสียงพ่อคือเราโทรศัพท์ไปก่อนมิดเทอม โทรไปคุยตอนนั้นพ่ออาการดีขึ้นมากแล้ว พ่อบอก 'รีบๆกลับมาน้า คิดถึง ตั้งใจสอบนะลูกไม่ต้องกังวล' ตอนนั้นจำได้เรายังบอกรักกันแบบ  'รักนะ จุ้บๆ' พ่อเราก็พูด จุ้บๆ หัวเราะกันคิกคัก

            แล้วหลังจากนั้นเราก็โทรไป แม่เราก็ไม่ให้คุยเพราะพ่อต้องใส่หน้ากากออกซิเจน ทำให้พูดไม่ได้+กลัวเหนื่อย

            จนถึงวันนี้..เรามองไปที่พ่อ ใส่เสื้อผ้าตัวโปรด นอนนิ่งอยู่ตรงนั้น มันเป็นภาพที่เราไม่เคยคิดเลยว่า เราจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ที่เกิดขึ้นกับพ่อของเรา พ่อเราดูอ้วนกว่าตอนอยู่รพ.มาก ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่าว่าเขายิ้ม เราจับเท้าพ่อ แล้วพูดว่า ‘พ่อจ๋า...พ้อยกลับมาหาพ่อแล้วนะ พ่อเห็นพ้อยมั้ย พ้อยยืนอยู่ตรงนี้ คิดถึงพ่อนะ เดี๋ยวจะพาพ่อกลับบ้านแล้วนะ’ บอกไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดี

เรา แม่เรา พี่เรา2คน นั่งรถของพยาบาล ที่มีพ่อเราที่ตอนนี้ถูกห่อไว้กับผ้าขาวติดกับเค้าไรว่าไรสักอย่างที่เวลาเค้าเอาไว้เคลื่อนศพอะ นั่นแหละ

รถก็ขับไปเรื่อยๆ เราก็คอยบอกทางพ่อ ว่าถึงตรงนี้แล้วนะ เลี้ยวแล้วนะ ถึงวัดนี้แล้วนะบอกเรื่อยๆ จนถึงบ้านย่าเรา

              วันแรกก็จะเป็นการรดน้ำศพ มีพวงหรีด พัดลม นู่นนี่มากมายจากเหล่าข้าราชการมากันเป็นคณะ

จนตกกลางคืน คนก็เริ่มกลับบ้านไปเหลือเพียงญาติๆแม่เรายังคงร้องไห้ไม่หยุด เรามองไปรอบๆ มองรูปพ่อ ความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นความรู้สึก

งง ว่าเห้ยพ่อเราตายไปแล้วหรอ งงไปหมด ไม่อยากจะเชื่อ เหมือนความฝัน เราหันมามองหน้าพี่ พี่เราก็รู้สึกไม่ต่างจากเรา วันนั้นเราเลยอัดคลิปค่ะ เรียกพ่อ บอก ‘ตื่นได้แล้วพ่อ เซลฟี่กัน’ เราก็เล่นกันกับพี่ค่ะ ถามว่าถ้าติดอะไรขึ้นมาจริงๆจะทำไง เราว่าเราอยากให้ติดนะ ถ้านั่นเป็นพ่อเรา เราก็เอามาเปิดดูซูมนั่นซูมนี่ ก็ไม่มีไรผิดปกติไป

             วันที่2 ก็เหมือนเดิมค่ะ มีผู้ว่าจากจังหวัดนั่นนี่มาเป็นเจ้าภาพ มาสวดศพ เราถามแม่เราว่าเมื่อวาน นายอ.ได้มารดน้ำศพพ่อมั้ย

เพราะเมื่อวานจังหวัดเราเขามากันหมดเลย แม่บอก ไม่ได้มา นั่นแหละค่ะ พยายามไม่สงสัยนะจนกระทั่ง ประมาณ2ทุ่มกว่าๆ

ลมแรงมาก ตรงที่นั่งพระมันจะมีพวกขวดน้ำแล้วก็แก้วกาแฟที่พระฉันเสร็จแล้วตั้งอยู่เราเลยเดินเข้าไปเก็บค่ะ ตอนนั้นคือไม่มีใครอยู่ตรงหน้างานศพเลยนอกจากเรา คนอื่นไปอยุ่ตรงที่ครัว ที่ทานอาหารกันหมด เราก็เก็บจาน เก็บถ้วยตามประสาเรา สักพักก็เหลือบไปเห็นเหมือนคนนั่งที่หน้าโลง กำลังจุดธูปแล้วก็ไหว้อยู่เราเลยหันไปมอง เราแบบ เห้ยยย นายอ.ค่ะ ตอนนั้นเราตัวสั่นไปหมดเรารีบเก็บแล้ววิ่งเข้าไปหาแม่ บอกว่านายอ.มา

แล้วเข้าใจเราปะ มันแปลกๆมั้ยที่คนอื่นเขามากัน แต่เขามาคนเดียวมาแบบเงียบๆเหมือนจะไม่ให้ใครรู้ แต่เราบังเอิญไปเห็นไง แม่เราก็เดินเข้าไปหา ความรู้สึกตอนนั้นแบบบอกไม่ถูกอะ น้ำตาไหล จะเรียกว่าโกรธก็โกรธแค้นก็แค้น อยากจะเดินไปจิกหน้ามัน ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนมองแม่เราก็ร้องไห้  เราก็ร้อง พี่เราด้วย แต่มันทำไรไม่ได้ แม่เราเคยบอกเราว่า ‘ไม่เป็นไรหรอกลูก เราอย่าไปเคียดแค้นเขา เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้น เขาเป็นคนทำจริงๆรึเปล่า ตอนนี้เราก็แค่รับรู้ไว้ เก็บไว้ในใจ ถ้าเขาไม่ได้ทำจริงๆ เราก็บาปเปล่าๆ ใครทำอะไรเดี๋ยวก็ได้ผลแบบนั้น คนแบบนี้ทำอะไรไม่เจริญหรอก’ มันก็จริงแหละ ถ้าเขาไม่ได้ทำจริงๆ ก้บาปเราเปล่าๆ ตอนนี้ครอบครัวของเราเลยได้แต่คอยติดตามผลงานของเขาว่าจะเป็นยังไงต่อไป

            ลืมบอกไปว่า ก่อนวันที่จะเคลื่อนศพพ่อเรา เรากับแม่ไปที่ทำงานพ่อเรา เพื่อไปเก็บของทั้งเสื้อผ้า เครื่องราชต่างๆ

เพื่อใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ แม่เราก็เจอเข็มที่ไว้ติดหน้าอกจะอธิบายยังไงดี คือพ่อเรากำลังจะได้เป็นรองผู้ว่าค่ะ ซึ่งเข็มนั้นจะมีแค่รองผู้ว่ากับผู้ว่าเท่านั้นที่ติด ซึ่งพ่อเราได้แล้ว เรื่องนี้ที่บ้านเราน่าจะมีแม่คนเดียวที่รู้ว่าพ่อได้เข็มนี้แล้ว แต่ช่วงนั้นก็คือมีข่าวมาตลอดมีคนนั้นคนนี้มายินดีกับพ่อเรา แต่พ่อเราก็หัวเราะอย่างเดียวไม่พูดไร

             พ่อเราเขาอยากเป็นตั้งนานแล้ว พลาดมา3ปีแล้ว ปีแรกเหมือนพ่อแบบเพิ่งเริ่มเลยพลาดไป พอปีที่2กระแสก็มาว่าพ่อกับอีกคนนึงนี่แหละที่จะได้ขึ้นรอง แต่สุดท้ายก็ได้อีกคนไป จนมาปีนี้ก็มีข่าวพ่อเรากับอีกคนนึงว่าจะได้ขึ้น แต่คือเมื่อต้นปีเขาส่งเข็มนี้มาให้พ่อเราแล้ว ก็คือยังไงก้ได้พ่อเราแน่นอน เหลือแค่รอแต่งตั้งเดือนตุลาคมนี้ แต่พ่อก็มาดันป่วย แล้วก็เสียก่อน นี่ก็เป็นอีกเรื่อง ที่เราสงสารพ่อมาก มองรูปพ่อแล้วเราก็ร้องไห้ทุกที พ่อเราทำงานหนักมาก โดยที่สิ่งตอบแทนกลับมามันไม่คุ้มเลย เหมือนมันเป็นความฝันพ่อ ฝันที่กำลังจะสำเร็จ มันกำลังจะสำเร็จอยู่แล้วแท้ๆ มันแบบมันยังไม่สุดอะ ถ้าเป็นไปได้ ถ้าเรื่องทั้งหมดมันจะเกิดขึ้น เราอยากให้พ่อเราได้ก่อน อย่างน้อยมันก็คือฝันของเขา ที่เขาทำงานหนักมาตลอดอายุราชการ นี่แหละค่ะ เรากำลังจะดูว่าตุลานี้ ใครจะได้เป็น แล้วใครได้ขึ้นแทนตำแหน่งพ่อเรา

พี่เราบอกว่า ‘ถ้าเป็นชื่อนายอ. ก็เตรียมเฮกันได้เลย5555555 ‘

             

                หลังจากพ่อเราเสีย ไม่มีใครฝันหรือเห็นอะไรพ่อเลยแม้แต่คนเดียว มันก็แปลกนะ ปกติแม่เราฝันง่าย แล้วก็แม่นด้วย แต่นี่ไม่เลย

คืนวันเผา ตระกูลเรามีพิธีพระราชธานเพลิงศพค่ะ เป็นพิธีที่เป็นเกียรติแก่วงตระกูล เราได้อ่านประวัติผู้วายชนม์ ตื่นเต้นมาก น้าเราบอกว่าห้ามร้องนะตอนอ่าน เราก็ซ้อมอย่างดีเลย พอไปพูดเรามั่นใจมาก ขจัดความรู้สึกเศร้าทุกอย่างออกไป จนถึงตอนที่อ่านเกี่ยวกับครอบครัวตอนนั้นคือ เสียงสั่น พยายามคุมสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อจนจบ พอจบเท่านั้นแหละน้ำตาที่กลั้นไว้ก็กรูกันออกมาไม่หวั่นไม่ไหว ผู้ว่าเขาก็เดินมาบอกเราว่า

‘เข้มแข็งมาก ใจแข็งมาก นึกว่าจะร้องแล้ว สุดยอดไปเลย ตั้งใจเรียนนะลูก’ เราแบบอยากให้พ่อได้ยิน อยากให้พ่อได้เห็นว่าเราทำได้ ว่าเราเข้มแข็งแค่ไหน พ่อเราคงภูมิใจ เพราะเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ไม่กล้าแสดงออกเลย แต่เราเชื่อนะ เชื่อว่าพ่อคงมองอยู่ที่ไหนสักแห่ง เค้าคงได้ยิน

สิ่งที่คนอื่นพูด ที่คนอื่นชมเรา

         หลังจากเก็บของเคลียทุกอย่างเสร็จเราเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง..แฟนพี่ชายคนโตเราก็พูดขึ้นมาว่าเหม็นอะ ถามน้าเราว่าได้กลิ่นมั้ย

น้าเราก็บอก 'ไม่นะ กลิ่นไรหรอ' เขาบอก ‘กลิ่นเหมือนกลิ่นธูปอะ ’ เท่านั้นแหละ ทุกคนก็มองหน้ากัน ก็ไม่พูดไร เหมือนพี่เขาจะได้กลิ่นคนเดียว พอไปถึงบ้าน เราก็เข้าในห้องพ่อกับแม่ เราก็นั่งๆนอนๆ พอลงมา พี่เราคนกลางอะ ก็บอกแม่ว่า ‘ก่อนที่จะเข้าห้องพ่อไปอะ ได้กลิ่นธุปหน้าห้องด้วย ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพิ่งมาคิดได้สักพักว่าเออว่ะ กลิ่นธูปจะมาอยู่แถวนี้ได้ไง’ หลังจากนั้นเราก็ขึ้นมากทม.มาค่ะ มาเรียนต่อ ก็คอยถามข่าวคราวที่บ้านว่าเป็นไงบ้าง แม่บอกแม่กำลังเก็บของ ยายเราเอาดวงไปดูบอกว่าบ้านนั้นอยู่ไม่ได้แล้ว มันยังมีของอยู่ ถ้าอยู่แล้วมันจะไม่ดีกับคนในบ้าน

พอดึกๆเราก็โทรไปอีกถามว่าเก็บของหมดยัง แม่บอกเก็บไปบางส่วนแล้ว ดวงที่เอาไปดูอะของพ่อ เลยดูใหม่เป็นของแม่ เขาบอกว่ายังอยู่ได้

เพราะว่าดวงแม่แข็ง มีเทวดา3องค์คุ้มครองอยู่ เราก็มโนไปเองว่าเป็นเรา3คนพี่น้องรึเปล่า55555

       

           จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไป2เดือนแล้ว แม่เราก็ถามเราบ่อยๆว่าฝันถึงพ่อบ้างมั้ย เราก็ไม่ฝันเลย แม่เราก็ไม่ แต่พี่คนกลางเราเนี่ยดิ...

พี่เราบอกว่าฝันถึงพ่อหลายครั้งแล้ว พ่อมาใบ้หวยด้วย แต่ไม่ถูก ครอบครัวเราก็ไม่ได้ซื้อนะ55555

พี่ก็เล่าฝันล่าสุดเลยคือฝันว่าเห็นพ่อใส่เสื้อสีกากีอะ พี่บอกเหมือนพ่อตอนแต่งงานกับพ่อแรกๆ

พี่: พ่อ!! หล่อจัง ไอหยา หุ่นดี เห้ยแล้วพ่อตายแล้วไม่ใช่หรอ?

พ่อ: พ่อยังไม่ตาย

พี่ : พ่อจะไม่ตายได้ไง มีงานศพพ่อ แล้วก็เพิ่งไปเผาพ่อมาด้วย

พ่อ: พ่อยังไม่ตายจริงๆ พ่อโดนอุ้ม

พี่: แล้วพ่อไปอยู่ไหน กินอะไรยัง

พ่อ:พ่อเพิ่งหนีมาได้ พ่ออยู่วัด กินข้าววัด

ก็ประมาณนี้ แล้วก็มีอีกคืนนึงที่พี่เรากับเพื่อนพี่เราไปนอนบ้านอีกหลังนึง

พี่เราบอกว่าพี่กับเพื่อนนอนห่างกันมาก แล้วพี่เรานอนตะแคงไงตอนนั้นก็ปิดไฟกำลังจะนอนเลย สักพักพี่เราก็รู้สึกที่นอนมันยวบไป

แล้วก็รู้สึกว่ามีคนมาจี้หลัง พี่เราก็นึกว่าเพื่อนแกล้ง ก็เลยหันขวับไป เห็นเพื่อนนอนตะแคงอีกฝั่งห่างๆ พี่เราก็คิดในใจยิ้มแกล้งกูใช่มั้ย

พี่เราก็ตะแคงกลับไปเหมือนเดิม สักพักก็ที่นอนก็ยวบลงอีก พี่เราก็คิดละ เดี๋ยวจะแกล้งหันไปเอาให้จับได้เลย

พี่เราก็ค่อยๆหันๆ ไปค่อยๆลืมตาเห็นเป็นมือดำๆกำลังจะเอามาปิดหน้า พี่เราก็หันขวับเลย ทุกอย่างหายไป พี่เราก็ตะโกนเลย ‘เห้ย!!แกล้งกูทำไม’  เพื่อนพี่เราก็สดุ้งหันมา ทำหน้างงๆ  บอกกูไม่ได้แกล้ง กูหลับ



หลังจากนั้นพี่เราก็ต้องกทม.มาฝึกงาน เราก็ถามว่าฝันหรือเห็นไรที่นี่มั้ย พี่เราก็บอกว่าไม่เห็นแล้ว

แล้วเราก็มารู้อีกอย่างนึงคือ พี่ชายคนโตเราเขียนเรื่องส่งเมลไปรายการคนอวดผี แล้วเขาก็ติดต่อกลับมาเบอร์แม่เรา

แม่เราก็เล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดให้เขาฟังเขาก็บอกให้ส่งรูปงานศพ แล้วก็ตอนที่อยู่รพ.ไปให้เขา เราก็ส่งรูปที่ถ่ายที่รพ.ไป

แม่เราก็อยากรู้ว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นที่พ่อเราเสียนี่เกิดจากโรค หรือเพราะโดนของจริงๆ เขาก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกที..


เล่าเรื่องผี ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 3 เล่าเรื่องผี ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ตอนที่ 3 Reviewed by theghoststry on มีนาคม 15, 2561 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น

Business

[recent]